อีกแป๊บนึงนะแม่…
อีกห้านาทีนะแม่....
จบด่านนี้ก่อนนะแม่.....
น่าจะเป็นประโยคที่คุณแม่หรือผู้ปกครองส่วนใหญ่ มักจะได้ยินกันเสมอเวลาที่บอกให้ลูกเลิกเล่นเกมใช่ไหมคะ ในขณะที่คุณแม่ก็บอกให้ปิดแล้วปิดอีก พูดดีก็แล้ว ดุก็แล้ว แต่ลูกก็ทำนิ่งเฉยเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาบ้าง บางครั้งชักสีหน้าต่อต้านไม่พอใจบ้าง อารมณ์เสียใส่เราบ้าง จนบางครั้งเราอยากจะเดินเข้าไป เขกสักโป๊กสองโป๊ก
พฤติกรรมการต่อต้านและต่อรองจะพบได้บ่อยในเด็กที่เล่นเกม เนื่องจากธรรมชาติของเด็กที่ติดพันอยู่กับการเล่นเกมคอมพิวเตอร์ มักมีข้อต่อรองเพื่อเพิ่มเวลาในการเล่นกับพ่อแม่อยู่เสมอ ซึ่งหากพ่อแม่ใจอ่อน ขาดความเอาจริงและผ่อนผันให้ เด็กจะเกิดการเรียนรู้ว่า พ่อแม่ไม่เอาจริงและจะต่อรองเช่นนี้อีกในครั้งต่อๆไป ซึ่งการใจอ่อนต่อพฤติกรรมเด็กเช่นนี้ไม่ได้มีผลเสียเฉพาะการเรื่องการเล่นเกมเท่านั้น แต่จะมีผลต่อกฎเกณฑ์ทุกอย่างในบ้าน ยากที่เด็กจะทำตามกฎกติกาที่วางไว้ ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อการรักษาระเบียบวินัยในตนเองของเด็กในระยะยาว
การลดพฤติกรรมต่อต้าน คุณแม่อาจจะทำโดยการพูดย้ำกับลูกด้วยน้ำเสียงและการแสดงที่หนักแน่นและจริงจังอย่างพอดีโดยการบอกว่าต้องการให้ลูกทำอะไรอย่างชัดเจนและบอกด้วยว่าเมื่อไรที่คุณแม่ต้องการให้ลูกทำโดยคุณแม่อาจมีการบอกเตือนล่วงหน้าให้ลูกรู้ด้วยค่ะ เช่นคุณแม่อาจมีข้อตกกับลูกก่อนเล่นเกม โดยให้เล่นเกมครั้งละ 1 ชั่วโมง เมื่อใกล้ครบกำหนด 1 ชั่วโมง คุณแม่อาจจะเริ่มเข้าไปบอกก่อนว่า อีก10นาที ใกล้จะครบ 1 ชั่วโมงแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องปิดเกมตามที่ตกลงกันไว้แล้ว เพื่อให้ลูกรู้เวลาที่เหลืออยู่และได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจ เมื่อถึงเวลาตามที่กำหนดคุณแม่ควรทำตามที่พูดไว้ด้วยอย่างเด็ดขาดเอาจริง โดยย้ำเตือนว่าขณะนี้ได้ครบกำหนดเวลาตามที่ตกลงกันไว้แล้วค่ะ
ซึ่งคำพูดที่พูดกับลูกควรเป็นคำที่นุ่มนวลไม่วางอำนาจหรือตะคอกแผดเสียงขณะพูดพยายามมองหน้า สบตาลูก แสดงท่าทีจริงจัง หนักแน่นแต่นุ่มนวล การกระทำที่คุณแม่ไม่ควรปฏิบัติกับลูกที่มีพฤติกรรมต่อต้านคือการตั้งกฎเกณฑ์เรียกร้องกับเด็กตลอดจนการตำหนิเด็กโดยไม่บอกชัดเจนว่าเด็กควรทำหรือไม่ควรทำอะไร เช่น ทำไมถึงทำตัวแย่อย่างนี้ หรือทำไมดื้อแบบนี้พูดไม่รู้จักฟังควรจะบอกพฤติกรรมที่เด็กควรจะทำให้ชัดเจน ไม่ควรขึ้นเสียงหรือตะคอกลูกด้วยอารมณ์และถ้าจำเป็นต้องตำหนิลูก ก็ขอให้ตำหนิเฉพาะการกระทำของเขา อย่าตำหนิตัวเขา
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลงโทษด้วยการตี เพราะจะเป็นการสอนเด็กกลายๆ ค่ะ ว่าการจะให้คนอื่นทำตามที่เราอยากให้ทำเราจะต้องใช้ความรุนแรง สิ่งสำคัญที่สุดยิ่งกว่าอื่นใดคือ คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมชมลูกเวลาที่ลูกทำตามที่เราบอกหรือทำตัวน่ารักเพราะคำชมนอกจากเป็นกำลังใจให้เด็กทำให้เด็กมีความภาคภูมิใจยังส่งผลทำให้เด็กมีความเชื่อมั่นในตนเองอีกด้วยค่ะ