หวังดี หรือ คาดหวัง ?
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนรักลูก หวังดีกับลูก อยากให้ลูกได้ดี อยากให้ลูกมีความสุข
พ่อแม่แต่ละคนมีกรอบแนวคิด ทัศนคติ และประสบการณ์ ที่ทำให้มีความคิดที่ว่าลูกควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร เส้นทางการดำเนินชีวิตน่าจะต้องเป็นแบบไหนถึงจะดี ถึงจะประสบความสำเร็จ
แต่บางครั้งพ่อแม่อาจลืมไปว่า ลูกก็เป็นอีกชีวิตหนึ่ง
ที่มีตัวตนเป็นของตัวเอง
ที่มีความคิด ความชอบ ความรู้สึก ความต้องการของตัวเอง ซึ่งอาจไม่เหมือนกับพ่อแม่
พ่อแม่บางคนประสบความสำเร็จในการเรียนและหน้าที่การงาน ก็อยากผลักดันลูกให้ประสบความสำเร็จเหมือนกับตัวเอง เลยคอยดูแลใกล้ชิด คอยกำกับว่าต้องทำอะไร ต้องเดินไปในเส้นทางไหนถึงจะดี
ด้วยความหวังดี ที่แฝงมาด้วยความคาดหวัง ทำให้ไม่ได้ฟังเสียงของลูก ว่าลูกมีความคิดอย่างไร มีความต้องการอย่างไร และลูกก็อาจไม่กล้าบอก ไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เพราะมีพ่อแม่คอยกำกับ และตัดสินใจแทนไปหมดแล้ว
พ่อแม่บางคนก็มีความทุกข์
...อาจคาดหวังกับตัวเองว่าน่าจะประสบความสำเร็จ น่าจะทำอะไร ๆ ได้ดีมากกว่านี้
เลยเอาประสบการณ์ของตัวเอง ความทุกข์ของตัวเอง ส่งต่อเป็นความคาดหวังกับลูก
ว่าลูกต้องทำแบบนั้น ทำแบบนี้ จะได้ประสบความสำเร็จ มีความสุข
อยากให้ลูกเป็นในแบบที่พ่อแม่อยากเป็น แต่ไม่ได้เป็น
...จนกลายเป็นการกดดันลูก และลืมไปว่า ลูกอาจอยากมีเป้าหมายอื่น และมีความต้องการในชีวิตของตัวเอง ที่แตกต่างจากพ่อแม่
อย่าโยนความคาดหวังของตัวเองให้ลูก แล้วบอกว่าหวังดี
เพราะมันจะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง และอาจตามมาด้วยปัญหาสุขภาพจิต
โลกวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อน
การรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านโลกออนไลน์ ทำให้เด็ก ๆ สามารถเปิดโลกทัศน์ได้อย่างกว้างขวาง หากเลือกค้นคว้าหาข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์ ในทางที่เด็กสนใจ ซึ่งแนวคิดในการเลือกเส้นทางเดินในชีวิต เรื่องของอาชีพ เรื่องของการมีความสุขในชีวิต เรื่องของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ย่อมมีความหลากหลาย และแตกต่างจากแนวคิดของรุ่นพ่อแม่
ในตัวคนแต่ละคน ย่อมมีความคาดหวัง ความต้องการในตัวเองอยู่แล้ว
เช่น เวลาเล่นเกม ก็อยากเล่นให้สนุก เล่นให้ชนะ
เวลาแข่งขัน ก็อยากทำให้ดี อยากชนะ อยากได้รางวัล อยากได้การยอมรับ
เวลาคนเราจะทำอะไรก็ตาม ย่อมมีความคาดหวังกับตัวเองว่าอยากจะทำให้ดีทั้งนั้น
เพราะการคาดหวังเป็นเหมือนแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ
เพียงแต่คนเราต้องระลึกไว้ว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราอาจไม่สมหวังในทุกเรื่อง และมันก็ไม่เป็นไรที่จะผิดหวัง เพราะเราสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์นั้น และทำให้มันดีขึ้นได้
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะมีความคาดหวัง ไม่ว่าจะคาดหวังกับตัวเองหรือคนอื่น
แต่เราไม่ควรยึดติดกับมันมาก เพราะจะทำให้เกิดความทุกข์
ควรเผื่อใจยอมรับความผิดหวัง
หากล้มก็ลุกขึ้นมา เดินหน้าต่อไป ค่อย ๆ เรียนรู้ และมีความคาดหวังบนพื้นฐานของความเป็นจริง
พ่อแม่โดยส่วนใหญ่
คงอยากให้ลูกตั้งใจเรียน เรียนให้เก่ง ขยันอ่านหนังสือ พัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต่ออนาคต เรียนให้มาก
เรียนในสิ่งที่จะสร้างความมั่นคงทางอาชีพในอนาคตได้
แอดมินอยากชวนมองถึง ความสุขของลูกระหว่างเส้นทางของการเติบโต
ลองชวนลูกทำงานอดิเรกที่ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องทำให้ดีก็ได้ แค่ทำแล้วมีความสุข
ลองชวนลูกมาใช้เวลาในครอบครัวแบบที่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะ เสริมสร้างความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว พ่อแม่อาจจะลองเล่นเกมกับลูกก็ได้
ลองถามลูก ฟังลูก ก่อนที่จะบอก หรือสอนลูก
ให้ลูกได้ลองคิด บอกความต้องการ และตัดสินใจในเส้นทางของตัวเอง
น่าจะเป็นความหวังดีในแบบที่ลูกต้องการมากกว่าความหวังดีที่มาพร้อมกับความคาดหวังและความกดดันนะคะ
คาดหวังกับลูกได้ แต่ก็อย่าลืม “ยอมรับ” ในตัวตนของลูก
เป็นพ่อแม่ที่คอยประคองลูก ไม่ให้ลูกล้ม หรือถ้าล้มก็ไม่เจ็บมาก
เฝ้ามองลูกว่าจะเลือกเดินไปทางไหน
ให้ลูกได้เลือกเส้นทางของตัวเอง
บทความโดย ณัฐพร กังสวิวัฒน์