เตรียมความพร้อม เมื่อเลิกเล่นเกม
การนั่งเล่นเกมอยู่หน้าจอ อาจทำให้เราเพลิดเพลินจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีเวลาก็หมดไปโดยที่เรายังไม่ทันได้ทำอะไรมากมาย เพียงแค่นั่งอยู่หน้าจอเท่านั้น
ชีวิตของคนเรา มีหลายสิ่งหลายอย่างให้เรียนรู้ หากเราออกไปใช้ชีวิต และเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ เราก็จะได้เห็นโลกกว้าง ได้เรียนรู้ ได้เติบโต และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต
คงจะน่าเสียดายที่การเล่นเกมกินเวลาส่วนใหญ่ของเราไป จนไม่มีโอกาสได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง
หลาย ๆ คนที่เล่นเกมมานานจนอายุเริ่มมากขึ้น
พอโตขึ้น มุมมองบางอย่างเกี่ยวกับเกมก็อาจจะเปลี่ยนไป
บางคนอาจจะรู้สึกเสียดายเวลา เสียดายเงิน ที่เสียไปกับการเล่นเกม
บางคนอาจจะอยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเล่นเกมของตัวเอง เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
บางคนอาจจะเริ่มมีเป้าหมายในชีวิตด้านอื่น ๆ แต่การเผลอเล่นเกมมากไป ก็อาจเป็นอุปสรรคที่จะไปสู่เป้าหมายได้
ในบทความนี้ จะพูดถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อคุณพยายามจะเลิกเล่นเกม
และวิธีการเพื่อให้คุณสามารถเลิกเล่นเกมได้สำเร็จ
คุณอาจประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากทางอารมณ์ แต่การเตรียมตัวเตรียมใจล่วงหน้า จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
7 สิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณเลิกเล่นเกม
1. คุณจะมีวันที่ยากลำบาก
การหยุดเล่นเกมอาจทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด กระวนกระวายใจ หรือเบื่อหน่าย
บางวันอาจจะทำได้ง่าย บางวันก็อาจจะยากสำหรับคุณ แต่มันไม่เป็นไรเลย
การที่คุณเลิกเล่นเกม และ move on จากการเล่นเกม นับเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ เป็นบทใหม่ในชีวิตของคุณ
อย่ายึดติดกับการมีวันที่ดีทุกวันมากเกินไป เพราะคุณจะหงุดหงิดและเครียด ซึ่งมีแต่จะทำให้คุณอยากเล่นเกม
2. ประสบการณ์ของคุณจะเป็นเหมือน “คลื่น”
จงเตรียมพร้อมที่จะสัมผัสกับอารมณ์ที่หลากหลาย และอารมณ์เหล่านี้อาจจะออกมาจากไหนก็ได้ บางวันคุณจะมีความสุข บางวันคุณจะคิดถึงความหลังที่ได้เล่นเกม บางสัปดาห์คุณอาจรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บางสัปดาห์คุณอาจรู้สึกว่าเวลาช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน
อารมณ์ที่เกิดขึ้น เดี๋ยวมันก็หายไป และมันก็อาจจะกลับมาใหม่
ขอให้เตรียมความพร้อมรับคลื่นอารมณ์ที่จะเกิดขึ้น
โต้คลื่นแล้วก้าวต่อไป
3. คุณอาจต้องใช้เวลามากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม เลิกติดเกมด้วย Video Game Detox กันเถอะ
การพักจากทุกอย่างที่เกี่ยวกับเกม หรือ Video Game Detox โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้อยู่ห่างจากเกมเป็นระยะเวลา 90 วัน เพื่อปรับสมดุลให้กับสมอง
แต่ระยะเวลา 90 วัน เป็นเพียงแนวทางทั่วไปเท่านั้น ซึ่งบางครั้งคุณอาจใช้เวลามากขึ้น อาจจะดีกว่าถ้าคุณจะจดจ่อกับจำนวนและวันที่ไม่ได้เล่นเกมให้น้อยลง แล้วค่อย ๆ สร้างวิถีชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องเล่นเกมต่อไปอย่างต่อเนื่อง
4. คุณจะมีความต้องการและความอยาก
เป็นเรื่องปกติที่พอคุณเลิกเล่นเกมแล้วคุณจะมีความรู้สึกอยากกลับไปเล่น ความกระหายอยากที่จะเล่นเกมจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งขอให้คุณรับรู้และเข้าใจว่ามันไม่เป็นไร มันเกิดขึ้นได้ และมองหาว่าคุณจะทำอะไรเพื่อที่จะปรับอารมณ์และก้าวผ่านความอยากนี้ไปให้ได้ คุณอาจจะลุกขึ้นมาเดินเล่น ไปหาอะไรกิน ทำความสะอาดบ้าน ออกไปหาเพื่อน หรือตั้งเป้าหมายในการทำสิ่งอื่น ๆ ที่จะก่อให้เกิดผลดีกับตัวคุณ
5. เพื่อนเกมเมอร์ของคุณอาจไม่สนับสนุนคุณ
เพื่อนบางคนจะสนับสนุนในสิ่งที่คุณทำ ในขณะที่คนอื่นอาจจะไม่สนับสนุน คุณอาจเสียเพื่อนที่เป็นเกมเมอร์บางคนไปเพราะพวกเขาอาจจะไม่พอใจที่คุณไม่เล่นเกมกับเขาเหมือนเดิม หรือพอคุณไม่ได้เล่นเกมแล้ว คุณก็อาจจะห่างเหินกับเพื่อน ๆ ที่เคยเล่นเกมด้วยกัน สิ่งเหล่านี้อาจดูแย่และเจ็บปวด แต่สิ่งที่คุณต้องจำไว้ก็คือคนที่สนับสนุนคุณคือเพื่อนแท้ของคุณ และมันก็ไม่เป็นไรที่เราจะปล่อยคนบางคนออกจากชีวิตของเรา
6. คุณอาจจะเบื่อบ้างเป็นบางครั้ง
หนึ่งในเหตุผลหลักที่คนเราเล่นเกมคือเพื่อหลีกเลี่ยงความเบื่อ ดังนั้นจึงจำเป็นที่คุณจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเบื่อที่อาจเกิดขึ้นหลังจากที่คุณเลิกเล่นเกม โดยคุณจะต้องแน่ใจว่าคุณได้เลือกกิจกรรมใหม่ที่จะทำแทนการเล่นเกมแล้ว
อ่านเพิ่มเติม กิจกรรมทางเลือก ทดแทนการเล่นเกม
7. คุณอาจจะกลับไปเล่นเกมซ้ำ
ธรรมชาติของการเสพติดอะไรบางอย่าง เป็นธรรมดาที่อาจเกิดการกลับไปทำสิ่งนั้นซ้ำ เมื่อเราพยายามที่จะเลิกมัน ความจริงก็คือว่ามันเป็นเรื่องปกติและหากเรามีการเตรียมตัวล่วงหน้า ในกรณีที่มันเกิดขึ้น เราจะได้กลับมาในเส้นทางที่ถูกต้องได้เร็วขึ้น
สิ่งสำคัญคือการเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น
คุณสามารถเตรียมตัวล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงความล้มเหลว
ทำ 3 ขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ
1. โฟกัสทีละวัน
บางวันอาจจะง่าย บางวันอาจจะยาก และมันก็ไม่เป็นไร
การเริ่มต้นวันใหม่อย่างเข้มแข็งในตอนเช้า จะสร้างแรงผลักดันให้กับคุณไปตลอดทั้งวัน คุณอาจเริ่มต้นวันด้วยการทำสมาธิ หรือเขียนบันทึกว่ามีอะไรอยู่ในหัวของคุณ ซึ่งคุณอาจลองคิดถึงสิ่งดี ๆ ที่คุณอยากจะให้เกิดขึ้น
เป็นเรื่องดีที่จะเริ่มต้นวันใหม่อย่างเข้มแข็ง แต่บางครั้งอาจมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้น และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันอาจทำให้คุณเครียด แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตลอดทั้งวัน ขอให้คุณจบวันด้วยเรื่องดีๆ โดยการคิดถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรือสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนั้น การเขียนบันทึกจะช่วยให้คุณมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และทำให้คุณได้ตระหนักรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตมากขึ้น
2. ตั้งใจเลือกกิจกรรมใหม่ๆ
คำสำคัญคือความตั้งใจ ถ้าคุณยุ่ง คุณก็จะไม่เบื่อ ถ้าคุณไม่เบื่อ คุณจะไม่อยากเล่นเกม (มากขนาดนั้น) ดังนั้น ขอให้คุณได้เลือกทำกิจกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ที่คุณจะได้เรียนรู้และสนุกกับมัน
3. เริ่มเขียนบันทึกประจำวัน
การเขียนจะช่วยประมวลผลประสบการณ์ของคุณ และทำให้ความคิดของคุณชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกำลังเลิกเล่นเกม จิตใจของคุณอาจแปรปรวน และผุดเหตุผลต่าง ๆ มากมายเพื่อให้คุณกลับไปเล่นเกม
ลองเขียนบันทึกประจำวัน แม้ว่าจะเป็นเพียงหนึ่งหรือสองประโยคทุกวัน แล้วคุณจะได้ทบทวนตัวเอง เกิดการตระหนักรู้ในตนเองมากขึ้น และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่คุณทำคือการที่คุณได้เรียนรู้จากประสบการณ์ และประสบการณ์จะทำให้คุณเติบโต
เรียบเรียงโดย ณัฐพร กังสวิวัฒน์
รายการอ้างอิง
https://gamequitters.com/7-things-to-expect-after-you-quit-gaming/
ทักแชทเพื่อพูดคุยกับนักจิตวิทยา ได้เลยที่ https://m.me/healthygamer